ก้องภพชโลมน้ำมันไปทั่วบริเวณหน้าอกและหน้าท้องของสนฉัตร
หลังจากนั้นเขาจึงนวดแบบลูบไล้ไปทั่วบริเวณ
สนฉัตรรู้สึกว่าเขารู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกว่าเรื่องยุ่งๆต่างๆมันก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรง
ก้องภพสังเกตเห็นสีหน้าของสนฉัตรก็รู้สึกผ่อนคลายไปกับเขาด้วย
และแล้วบรรยากาศเก่าๆก็มาถึงเป็นบรรยากาศที่เขาสองคนโหยหา
ก้องภพนวดคลึงไปที่บริเวณหน้าอกเน้นตรงหัวนมที่กำลังขึ้นแข็งเป็นไต
พอนวดด้วยมือสักพักเขาก็เริ่มนวดโดยการใช้ลิ้น
มันเป็นการนวดที่ทำให้สนฉัตรส่งเสียงร้องครวญคราง
ก้องภพใช้ลิ้นอย่างเชี่ยวชาญในการเลียจูบ กัด คลึง ทึ้ง ไปที่หัวนมทั้งสองข้างของสนฉัตร
มันทำให้สนฉัตรแอ่นอกรับความสยิว
สนฉัตรนอนหลับตารู้สึกผ่อนคลายถึงขีดสุด ท่อนลำเริ่มขยาย
ก้องภพตวัดลิ้นเลยขึ้นไปถึงริมฝีปาก
เขาใช้ลิ้นเลียวนที่ริมฝีปากของสนฉัตรสักพักก่อนที่ปากจะประกบปาก
และสนฉัตรก็ใช้ลิ้นตอบสนองลิ้นของก้องภพเช่นกัน
ทั้งคู่จูบกันดูดดื่มแลกลิ้นกันไปมา
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ๆก้องภพถอนปากออกจากปากของสนฉัตร
เขาค่อยๆเลียตามร่องอกของสนฉัตรจนมาถึงบริเวณหน้าท้อง
ก้องภพใช้ลิ้นเลียแทรกไปยังกล้ามท้องของสนฉัตร
สนฉัตรรู้สึกได้ถึงรสลิ้นของก้องภพที่กำลังระดมเลียไปตามหน้าท้องของเขา
หลังจากนั้นก้องภพจึงเอามือคลำไปที่ผ้าขนหนูพบว่าท่อนลำของสนฉัตรแข็งแกร่งเต็มที่
เขาจึงดึงผ้าขนหนูออกแล้วดูดเลียท่อนลำขนาดเขื่องอย่างเมามันส์
สนฉัตรแอ่นรับเป็นจังหวะอย่างลงตัว
“โอ้ย ไม่ไหวแล้ว” สนฉัตรตะโกนลั่น ทำให้ก้องภพรีบปล่อยปากออกจากท่อนลำของสนฉัตร
สนฉัตรจับท่อนลำของเขาชักสักแป๊ปนึงน้ำอุ่นๆก็พวยพุ่งเป็นทางยาว
หลังจากทั้งคู่อาบน้ำเสร็จแล้วก็ลงไปนั่งกินของว่างที่แม่ของก้องภพเตรียมไว้ให้
ก้องภพอยู่กับแม่เพียงสองคนพวกเขาอยู่กันในทาวเฮ้าท์ 3 ชั้น
ห้องนอนของก้องภพอยู่ชั้น3 ส่วนห้องของแม่อยู่ชั้น 1
เป็นเพราะอย่างนี้กระมังจึงทำให้สนฉัตรอยากมาค้างที่นี่
การมาค้างที่นี่ทำให้อย่างน้อยสนฉัตรก็ไม่ต้องนึกถึงเรื่องอื่นๆที่บ้าน
ถึงมีบ้านหลังใหญ่แต่ใช่ว่าจะมีความสุข
บ้านหลังนั้นสมาชิกที่เหลืออีก 5 คนรวมทั้งแม่บ้านอีก 2ต่างจับจองพื้นที่บ้านกันอย่างลงตัว
ห้องของสนฉัตรเองบางครั้งก็เสมือนหนึ่งเป็นห้องเก็บของในยามที่เขามาค้างที่นี่นานเกินไป
เวลามาค้างที่บ้านของก้องภพสนฉัตรก็ยืมเสื้อผ้าของก้องภพใส่
พวกเขารูปร่างใกล้เคียงกันจึงไม่ใคร่จะมีปัญหาเท่าไหร่นัก
ที่บ้านสนฉัตรก็มักจะสนิทกับพี่สมิท เพราะเขาถือเป็นต้นแบบของสนฉัตร
มากกว่าพ่อถ้าจะนึกถึงคนที่บ้าน คนแรกที่นึกถึงก็คือพี่สมิท
ขณะทานของว่างกันที่ชั้นหนึ่งสนฉัตรพูดกับก้องภพว่า “กูมีอะไรจะบอก”
แล้วเขาก็พรั่งพรูถึงเหตุการณ์คืนนั้นอย่างละเอียดคืนที่เขาถูกทิ้งไว้ในป่ากับแมทธิว
คืนที่เขากับแมทธิวมีอะไรกันคืนที่บางครั้งเขาอยากจะจำ
แต่บางครั้งเขาก็อยากจะลืม
“มึงคิดยังไงกับแมทธิว” ก้องภพถามเขา
“ตอนนี้กูไม่ได้คิดอะไรกับมันแต่วันนั้นที่กูไปกับมันก็เพราะมีแต่มันเท่านั้น
ที่รู้ว่ากูไม่ได้ฆ่าอาจารย์วันชาติแน่ๆเพราะคืนเกิดเหตุกูอยู่กับมัน”
ก้องภพฟังอย่างเงียบๆดูท่าเขาตั้งใจจะฟังเรื่องของสนฉัตรกับแมทธิวเป็นพิเศษ
“การที่กูกับมันมีอะไรกันคืนนั้นมันก็เป็นเรื่องของสถานการณ์
บรรยากาศพาไปกูก็ไมได้คิดอะไรกับมัน แต่มันก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีนะ”
“แล้วทำไมมึงถึงไม่บอกนักสืบที่ผู้อำนวยการจ้างมาว่าคืนนั้นมึงอยู่ที่ไหนกับใคร
มึงจะอมพนำอยู่ทำไมมันไม่มีประโยชน์ต่อตัวมึงเลยนะ”
สนฉัตรทำหน้างงๆ“แล้วมึงจะให้กูพูดว่าอะไร โดดเรียนไปถ่ายแบบแล้วถูกแกล้งงั้นเหรอ
คือกูไม่รู้ว่ากูจะเล่าออกไปยังไงดีสมองกูตื้อไปหมด มึงเข้าใจกูนะ”
“อืมฟังแล้วกูก็เข้าใจมึง แต่ปล่อยไว้แบบนี้มึงก็หลีกเลี่ยงการเป็นผู้ต้องสงสัยไปไม่พ้น
นั่นแหละคือปัญหาของมึงเวลานี้”
สนฉัตรเงียบไปนิดนึงก่อนจะถามก้องภพว่า
“แล้วช่วงนั้นมึงหายไปไหนมาดูมึงยุ่งๆ แล้วก็ไม่ได้ไปเรียน”
ก้องภพเล่าเรื่องของพงษ์พัฒน์ให้สนฉัตรฟังพอฟังแล้วสนฉัตรเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะถามขึ้นว่า“แล้วมึงคิดอะไรกับไอ้พงษ์พัฒน์”
“กูจะไปคิดอะไรได้อ่ะคนเพิ่งเจอกันแค่ไม่นาน
แล้วน้องเค้าก็ป่วยด้วย” ก้องภพไม่ได้บอกสนฉัตรไปว่า
พงษ์พัฒน์ก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยสำหรับเขา
เขาไม่แน่ใจว่าควรจะบอกกับสนฉัตรเรื่องนี้หรือไม่จึงเงียบไว้ก่อน
อย่างน้อยทั้งคู่ก็เข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าใจกันผิดและห่างเหินกันไป
แต่ทั้งคู่ก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันว่าชีวิตมันไม่ได้ง่าย
และในอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะต้องเจอเรื่องอะไรอีกมาก
ยังมีอะไรอีกมากที่พวกเขาจะต้องเรียนรู้
ที่โรงเรียนในตอนเช้าของหลายวันต่อมา
ก้องภพสังเกตเห็นผู้หญิงที่เหมือนนางชีคนนั้นอีกเธอมาทำไมที่โรงเรียนบ่อยๆ
หลังจากอาจารย์วันชาติตายแล้วแล้วทำไม รปภ ของโรงเรียนถึงอนุญาตให้เธอ
เข้ามาในโรงเรียนได้นะ
ขณะที่มองผู้หญิงคนนั้นอยู่ผู้หญิงคนนั้นก็หกล้ม ข้างของกระจัดกระจาย
ก้องภพช่วยวิ่งไปเก็บให้เขาเห็นสมุดวาดเขียนตกอยู่ด้วย
สมุดเปิดไปตรงหน้าที่มีภาพสเก็ตด้วยดินสอ
เขาส่งของทั้งหมดให้ผู้หญิงคนนั้น
“ขอบคุณมากค่ะ พอดีส้นรองเท้าหัก เลยล้มของกระจุยกระจายไปหมด”
ก้องภพยิ้มอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรครับ บังเอิญผมเห็นพอดีก็เลยเข้ามาช่วย”
ก้องภพแปลกใจว่าผู้หญิงคนนี้เข้ามาทำไมที่โรงเรียน
ดูท่าก็ไม่น่าจะใช่ผู้ปกครองของใครวันก่อนก็เข้ามาตัวเปล่า
แต่วันนี้กลับถือของพะรุงพะรังจะถามไปตรงๆก็ใช่ที่
ก้องภพแยกจากผู้หญิงคนนั้นและเดินขึ้นตึกไป
เขาเดินผ่านห้องยิมนาสติกที่โดยปกติแล้วอาจารย์วันชาติต้องเป็นคนสอน
แต่ยังโชคดีที่วันนี้อ.สุภาวดีมาช่วยสอนแทน ไม่งั้นนักเรียนคงแย่
การจะหาอาจารย์ใหม่มาสอนกลางเทอมสมัยนี้ก็ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ
เดินผ่านห้องที่อาจารย์วันชาติเคยสอนทำให้เขาอดคิดถึงอาจารย์วันชาติไม่ได้
แต่สิ่งที่เขาอยากรู้และใครๆก็ออยากรู้ก็คือใครฆ่าอาจารย์วันชาติ
นักสืบที่ชื่อเจนจิราตำรวจ รวมทั้งคำพูนคงกำลังทำงานกันอย่างขมักเขม่น
ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะรู้ตัวฆาตกรก่อนกันที่แน่ๆสิ่งที่หลายคนสงสัยคือ
ฆาตกรเข้ามาในห้องและหายตัวไปอย่างลึกลับได้อย่างไร
ทั้งๆที่ห้องของอาจารย์วันชาติถูกล๊อคจากทุกด้าน
การเอามีดแทงหัวใจก็ดูโหดร้ายเกินไป
จะมีใครที่แค้นอาจารย์วันชาติมากถึงขนาดนั้น
การแทงคนตรงหัวใจทีเดียวแล้วตายมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำกันได้อย่างง่ายๆเลย
มันต้องมีการเตรียมการอย่างดีเหมือนกันนะ
สิ่งหนึ่งที่ก้องภพสงสัยอย่างมากคือการแทงทะลุหัวใจเป็นการจงใจ
และเตรียมวางแผนมาล่วงหน้าหรือเป็นความบังเอิญที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัยเอามากๆ
เย็นนั้นเขาต้องไปติวให้พงษ์พัฒน์อีกครั้งเมื่อเปิดประตูห้องไป
เขาแอบได้ยินพงษ์พัฒน์พูดกับใครก็ไม่รู้ทางโทรศัพท์ว่า“นายทำได้ดีมาก”
มันเหมือนกับการสั่งการไม่ ไม่นะ หรือว่าจะเป็นเรื่องอื่น
หรือคนที่กำลังมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานสามารถที่จะวางแผนทำอะไรแบบนี้ได้
และมีคนยอมที่จะจัดการให้
หรือการที่เรารู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอีกไม่นานการที่ได้แก้แค้นใครบางคน
จะทำให้เรานอนตายตาหลับการช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังจะตายมันเป็นเหตุผลเพียงพอ
ที่จะทำให้ใครบางคนยอมทำถึงขนาดนั้นรึเปล่านะ
หรือว่า ...ตอนนี้ก้องภพรู้สึกสับสนไปหมด
สนฉัตรรู้ว่าช่วงเย็นๆก้องภพจะไปที่โรงพยาบาล
เขาจึงนัดเพื่อนๆมาเล่นบอลกันเพื่อเป็นการคลายเครียดด้วยและก็อยากเล่นด้วย
วันนี้ไอ้คำพูนกับพิชิตก็มาเล่นด้วย
“เป็นไงวะไอ้โคนัน ปัวโรต์ มึงได้หลักฐานอะไรเพิ่มเติมบ้าง”
สนฉัตรถามคำพูนคำพูนตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ก็มีข้อมูลเพิ่มเติมมาเรื่อยๆคิดว่าอีกไม่นานหรอกกูจะสามารถกระชากหน้ากาก
ของไอ้ฆาตกรได้เสียทีและกูก็มั่นใจมากๆว่ามันจะต้องเป็นคนที่อยู่ในโรงเรียนเราด้วย”
“คนที่อยู่ในโรงเรียนเหรอ” พิชิตพูดออกไปอย่างตกอกตกใจ
คำพูนพยายามสังเกตพิชิตอย่างละเอียดลออ
“ใช่ข้าคิดว่าอย่างนั้น หรือเอ็งคิดต่างจากข้า” พิชิตนิ่งเงียบไม่ตอบคำถามของคำพูน
สนฉัตรจึงทำลายความเงียบ“มึงสองคนพูดห่าอะไรกันวะ ไปเล่นบอลกันดีกว่า”
ตอนอยู่ในสนามบอลพิชิตดูเหมือนจะปลดปล่อยความเครียดทั้งมวล
ออกจากหัวสมองของเขาคำพูนรู้สึกว่า ถ้ามีอะไรมากระตุ้น
พิชิตสามารถที่จะเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วมากและบางครั้งก็เป็นการเปลี่ยนที่เขาเองก็ไม่ค่อยรู้ตัว
ขณะเล่นบอลคำพูนพยายามสังเกตพิชิตตลอดเวลาข้อมูลที่เขารู้มาว่า
อาจารย์วันชาติมีส่วนทำให้พ่อของพิชิตตายยังถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญอยู่
ส่วนพิชิตเองนั้นในหัวตอนนี้เขามีแต่เรื่องว่าเย็นนี้เขาต้องพิชิตสนฉัตรให้ได้
ถ้าไม่พิชิตหัวใจก็ต้องพิชิตร่างกาย
อย่างน้อยสนฉัตรจะได้รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
วันนี้ไม่มีก้องภพมาป้วนเปี้ยนแถวสนามไอ้แมทธิวก็ไม่โผล่มา
ถ้ามาโอกาสเขาก็ควรจะจัดการสนฉัตรซะจัดการให้มันสิ้นซาก
เวลาคิดอะไรที่มีเรื่องของอารมณ์มาเกี่ยวข้องพิชิตมักจะเกิดมโนภาพที่
เขายากจะควบคุมเสมอ
หลังจากเล่นบอลกันเสร็จพิชิตวางแผนชวนสนฉัตรนั่งคุย
ปล่อยให้เพื่อนคนอื่นอาบน้ำกันให้เสร็จก่อน
มีหลายครั้งที่หลายคนเข้าใจไปว่าพิชิตเป็นคนที่เงียบขรึม
แต่เวลาที่เขาอยู่ในแผนเขาสามารถที่จะพูดคุยได้อย่างมีเสน่ห์และน่าสนใจ
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขาเขาขุดตำนานลูกหนังมาคุยกับสนฉัตร
ได้อย่างเมามันส์มันทำให้สนฉัตรเคลิ้มไปได้พักใหญ่ๆ
จนถึงเวลาที่เพื่อนทุกคนอาบน้ำกลับบ้านกันไปหมดแล้ว
พอได้จังหวะเหมาะพิชิตก็เป็นคนเอ่ยชวน
“ไปอาบน้ำกันเถอะว่ะคนอื่นไปกันหมดแล้ว”
สนฉัตรก็หลงคารมไปกับมัน
พิชิตแกล้งเปลี่ยนเคื่องแต่งตัวช้าทำให้สนฉัตรเดินไปที่ฝักบัวก่อน
ในสภาพเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว
พิชิตลอบมองสนฉัตรจากด้านหลัง
มองแผ่นหลังทีเต็มแน่นไปด้วยมัดกล้าม
กล้ามแขนที่ตึงและสวยได้รูปช่วงขาที่ดูแข็งแกร่ง
ก้นที่แน่นและมีกล้ามพองาม
มันช่างเป็นร่างกายของผู้ชายที่น่าลิ้มลองทีเดียว
ถ้าน่าลิ้มลองทำไมถึงไม่ลองซะล่ะ
พิชิตเริ่มหายใจถี่ขึ้นเขาถอดเสื้อผ้าออก ไม่เว้นแม้กระทั่งกางเกงใน
คงเป็นเพราะความตื่นเต้นระคนความหิวกระหาย
จึงทำให้ท่อนลำของเขาชูชันขึ้นอย่างอัตโนมัติ
เขาเดินไปเปิดฝักบัวข้างๆสนฉัตรและลอบมองสนฉัตรทุกครั้งที่มีโอกาส
จะลอบมองได้
เวลามองร่างกายของสนฉัตรจากด้านข้าง
พิชิตจะเกิดอารมณ์พิเศษขึ้นมาอีกแบบ
เพราะร่างกายของสนฉัตรด้านข้างมันช่างยั่วยวนเสียนี่กระไร
เมื่อมองทางด้านข้างจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหน้าท้องของเขาแบนราบ
แทบจะไม่มีไขมันอยู่เลย
ส่วนที่นูนเด่นออกมามีเพียงสองส่วนคือหน้าอกที่นูนออกมาอย่างได้รูป
กับก้นที่นูนออกมาอย่างน่าลูบไล้และกระแทกกระทั้น
ขณะที่สนฉัตรกำลังอาบน้ำอยู่พิชิตทนไม่ไหวจึงเดินเข้าไปหา
และจับสนฉัตรกดติดผนัง
“มึงทำเหี้ยอะไรวะ” สนฉัตรตกใจกับพฤติกรรมแปลกๆของพิชิต
เขากำลังพยายามที่จะแข็งขืน
แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดกำลังเกิดขึ้น
พิชิตชกท้องเขาอย่างเต็มแรงทำให้เขาจุก
ตอนนั้นพิชิตระดมเลียแผงอกแกร่งของเขาอย่างคนที่หิวกระหาย
หลังจากนั้นเขาพยายามที่จะจูบปากของสนฉัตร
แต่สนฉัตรเองพยายามที่จะขัดขืน
ทำให้พิชิตจิกผมของสนฉัตรทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้น
ทั้งคู่มองตากันและหายใจถี่ขึ้น
พิชิตพยายามจะใช้ปากประกบปากสนฉัตร
ถ้าสนฉัตรขัดขืนเขาก็จะจิกผมอย่างแรง
สนฉัตรรู้สึกว่าเขากำลังถูกข่มขืน มันทั้งตื่นเต้น
และเป็นอารมณ์ในแบบที่เขาไม่เคยเจอ
เพราะกับก้องภพและแมทธิวเขามักจะเป็นผู้นำเสมอ
เขายอมประกบปากกับพิชิต
และก็เพิ่งรู้ว่าพิชิตมีอารมณ์ที่ร้อนแรงมาก
ขณะจูบกับเขาพิชิตเอาอกดันอกของเขาไว้
พร้อมกับพยายามฉีกกางเกงในของเขาจนขาด
ปลดปล่อยท่อนลำขนาดเขื่องให้ออกมาโลดแล่น
หลังจากนั้นพิชิตก็โลมเลียตรงแผ่นอก
ไล่มาจนถึงลอนท้อง
ลามเรื่อยไปจนถึงท่อนลำ
เขาดูดดุนขบเลียอย่างเมามันส์
สนฉัตรไม่เคยเจอใครที่ทำกับท่อนลำของเขาได้อย่างรุนแรงเท่านี้มาก่อน
มันรุนแรงมากจนเขารู้สึกเหมือนว่าท่อนลำของเขาจะถูกกลืนหายไปในปาก
ของพิชิตถือว่าเป็นการปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวของสนฉัตรได้ดี
ขณะที่พิชิตกำลังดูดดุนท่อนลำอยู่
สนฉัตรใช้ขายันพิชิตจนล้มนอนหงายลงไป
เขาตามไปด้วยการเอาเท้าไปกดที่ยอดอกของพิชิต
แล้วใช้เท้าลูบไล้ไปตามหน้าอกของพิชิต
โดยมาหยุดอยู่ตรงหัวนมสนฉัตรใช้เท้าสีหัวนมของพิชิตไปมา
พิชิตชอบอารมณ์เถื่อนๆแบบนี้เป็นที่สุด
เขาไม่คิดเลยว่าสนฉัตรจะเข้าใจ
ท่อนลำของพิชิตกระดกไปมาตามอารมณ์เถื่อนที่เขาสัมผัสได้
สนฉัตรใช้ขาไล่ลงมาจนถึงหน้าท้อง
เขากดขาไปที่หน้าท้องของพิชิตอย่างแรง
ก่อนที่จะใช้ขาถูไถไปที่ท่อนลำของเขาอย่างสะใจ
พิชิตซี๊ดปากไม่ยอมหยุด
เขาพลิกตัวไปข้างหลังเพราะรู้ดีว่ากำลังจะถึงจังหวะไหน
สนฉัตรนอนประกบหลัง
เลียลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของพิชิตก่อนจะค่อยๆยัดท่อนลำไปด้านหลังของเขา
การซอยแบบถี่ยิบกำลังเกิดขึ้นพร้อมกับการจิกผมของพิชิตไปด้วย
พิชิตชอบเขาร้องครวญครางอย่างไม่ขาดปาก
ลีลาของสนฉัตรรุนแรงเร่าร้อนสะใจเขามาก
สนฉัตรกระทุ้งจนถึงขั้นที่ไม่มีอะไรจะห้ามอยู่
เขารีบดึงออกพลิกตัวพิชิตนอนหงาย
และชักจนน้ำแตกทั่วท้องอกและหน้าของพิชิต
พิชิตชอบอารมณ์เถื่อนๆแบบนี้มาก
เขาเองนึกไม่ถึงว่าสนฉัตรจะสอดรับอารมณ์ได้ดี
สนฉัตรเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีอารมณ์ที่หลากหลาย
และสามารถจะสนองตอบอารมณ์ที่หลากหลายได้เช่นเดียวกัน
พวกเขานอนแผ่หลาอยู่ในห้องน้ำก่อนที่จะเปลี่ยนที่มานอนเปลือยเปล่า
ที่โรงยิมหลังเก่าซึ่งไม่เคยปิดล๊อค
พวกเขานอนก่ายกันโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันมาก
พิชิตพึมพำว่า “กูรู้ว่ากูผิด แต่กูกับมึงคงไม่ได้ทำอะไรแบบนี้กันบ่อยนัก
ครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก็ได้”
สนฉัตรยังเงียบอยู่ปล่อยให้พิชิตพึมพำต่อไป
“กูรู้ว่ามึงกับไอ้ก้องก็กำลังเรียนรู้กัน
มึงเองยังมีไอ้แมทธิวอีก
กูรู้ฐานะกูดีกูคงผิดเองที่หันมาชอบมึงอีกคน
แต่มึงก็ผิดมึงรู้ตัวไหมที่เกิดมาน่ารักทำให้กูชอบ”
ตอนนี้สนฉัตรนอนคว่ำแบบเปลือยเปล่าส่วนพิชิตนอนคว่ำลงบนตัวเขา
แล้วเอามือลูบผมของสนฉัตรไปเรื่อยๆขณะพูด
“กูรับได้ทุกอย่างนะไม่ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
มึงจะคบกูอยู่หรือไม่อยากคบกูกูรับได้ทั้งนั้น”
สนฉัตรไม่ได้ตอบอะไรเขาเองก็ชัดเจนว่า
เขากับแมทธิวรวมทั้งพิชิตด้วย ผูกพันกันแต่เฉพาะเรื่องเพศ
ส่วนเขากับก้องภพมีอะไรหลายอย่างที่ค่อยผูกโยงหัวใจกันและกันไว้
การมีสัมพันธ์ทางเพศกับแมทธิวและพิชิตก็ต้องถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่
ส่วนเขาเองกับก้องภพก็ไม่รู้ว่าจะเข้าอกเข้าใจกันไปได้อีกนานแค่ไหน
หรือที่ซึ้งกันมาทั้งหมดมันเป็นเพียงป๊อปปี้เลิฟ
ในเมื่อยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ยังฟันธงไม่ได้ในอนาคต
เขาจึงไม่อยากตอบรับหรือปฏิเสธ
มันอาจจะดูเหมือนเป็นการเห็นแก่ตัว
แต่โดยมากคนที่เรารักมากที่สุดมักจะเป็นตัวเองมิใช่หรือ
ตอนนี้สนฉัตรก็เลยไม่อยากจะคิดอะไรมาก
เขาพร้อมที่จะหาประสบการณ์ไปเรื่อยๆแน่นอนว่ามันจะต้องมีขอบเขต
เขาคงไม่ปล่อยตัวปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไป
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ไปพร้อมกัน
เนื่องจากทุกคนเป็นผู้ชายเหมือนกัน
การเรียนรู้ไปพร้อมๆกันน่าจะเป็นไปได้
ความเข้าใจเท่านั้นที่จะไม่ก่อให้เกิดความบาดหมางขึ้นที่ใจ
คืนนี้เขาจึงปล่อยให้พิชิตบ่นพึมพำไปโดยที่เขาไม่ได้พูดอะไรเลย
ณยุทธโมเดลลิ่ง ขณะที่ยุทธกำลังเปิดดูแฟ้มเพื่อหานายแบบที่จะเอาไปถ่ายโฆษณา
พิทักษ์ก็พูดขึ้น “พี่ยุทธได้ยินข่าวฆาตกรรมที่โรงเรียนกันดารอะไรนั่นรึเปล่า”
“โรงเรียนเขาชื่อกังสดาลเว้ย”
“เออ เออนั่นแหละ โรงเรียนกังสดาลวิทยานั่นแหละที่ไอ้สนฉัตรมันเรียนอยู่
ผมได้ยินมาว่ามันกำลังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัย
ถ้าพี่ยุทธไม่ออกโรงช่วยมันมันตายแน่ๆเลยนะ
และโอกาสที่เราจะปลุกปั้นมันให้เป็นนายแบบอาชีพก็จะหมดลงด้วย”
ยุทธทำท่าครุ่นคิด“อืม จริงของเอ็ง ... แล้วเอ็งมีเรื่องอะไรอีกรึเปล่าเนี่ยข้ากำลังจะไปแล้ว”
“อีกเรื่องก็สำคัญมากเหมือนกันนะพี่ยุทธคือ ... ผมมีนายแบบใหม่จะมาแนะนำ”
“เฮ้ยที่อยู่ในแฟ้มนี่ก็เป็นพันแล้วนะ ที่เข้าคิวรอปั้นก็มีอีกหลายสิบแล้วยังจะต้องมีใครมาแนะนำข้าอีกอย่างนั้นเหรอ”
“แต่ผมว่าพี่ยุทธจะต้องชอบน้องคนนี้นะเขาอยากสวมบทบาททหารที่ถูกจับเป็นเชลยศึกและถูกทรมานแบบไม่ยั้งพี่ยุทธไม่สนใจน้องคนนี้เหรอครับ”
“อืมฟังดูน่าสนใจดีนะแล้วไอ้น้องคนนี้มันชื่อว่าอะไรอ่ะ”
“ชื่อว่านายพิชิตครับ”
|
วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561
นายแบบแสบเสียว 5 CP
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น